ปวดหลังไม่หาย…ต้องรักษา

ค้นหาสาเหตุอาการปวดหลัง 

 

เพราะอาการปวดหลังบางรายอาจเกิดจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เช่น เล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ แต่ก็มีผู้ป่วยที่ปวดหลังและปวดคอรุนแรงจนต้องเข้าพบแพทย์ ซึ่งการตรวจหาสาเหตุมีหลายวิธี เช่น X-ray และ MRI ที่ช่วยให้เห็นความผิดปกติภายในได้อย่างแม่นยำ โดยส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นกดทับเส้นประสาท, โพรงไขสันหลังตีบแคบ, ข้อกระดูกสันหลังเคลื่อน, กระดูกสันหลังคด หรือแม้แต่โรคที่ไม่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังก็อาจทำให้มีอาการปวดหลังและปวดคอได้เช่นกัน 

เช็กอาการปวดหลังก่อนพบแพทย์ 

 

• • รักษามาแล้วแต่อาการปวดหลังยังไม่ดีขึ้น 

• • ปวดหลังจนทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ 

• • ปวดหลังเฉียบพลันอย่างรุนแรง 

• • กังวลใจกับอาการปวดคอและปวดหลังที่ไม่สามารถรับมือเองได้ 

 

ประเมินระดับความปวดด้วยตนเอง 

 

ปวดมาก: ปวดหลังหรือปวดคอจนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ 

• • นอนไม่หลับ 

  • ขยับตัวยาก ทำอะไรก็ลำบาก 

 

ปวดปานกลาง: ปวดหลังหรือปวดคอตลอดเวลาแต่ยังพอทนได้ 

• • นอนหลับไม่สนิท 

  • เคลื่อนไหวช้าลง บางท่าเจ็บเพิ่ม 

 

ปวดเล็กน้อย: ปวดหลังหรือปวดคอเป็นพัก ๆ 

• • แม้ไม่รุนแรงแต่สร้างความรำคาญในชีวิตประจำวัน 

 

 

ลดอาการปวดคอและปวดหลังด้วยตัวเอง ต้องทำอย่างไร?

 

สิ่งที่ควรทำ 

 

• • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมกล้ามเนื้อแกนกลางให้แข็งแรง 

•  

  • ประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดหลัง 

•  

  • ประคบร้อนเพื่อคลายความเกร็งของกล้ามเนื้อและข้อ 

•  

  • รับประทานยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง 

•  

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ 

•  

  • ฝึกท่านั่ง ยืน ก้ม และยกของให้ถูกวิธี 

 

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

 

• • การนั่งหรือยืนนานเกิน 2 ชั่วโมง 

•  

  • กีฬาหรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อกระดูกสันหลัง 

•  

  • การก้มยกของหนักผิดท่า 

•  

  • สูบบุหรี่ ซึ่งทำให้กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น 

 

ดูแลตัวเองจากอาการปวดหลังและปวดคอ 

 

• • เรียนรู้วิธีแก้ปวดหลังเบื้องต้นด้วยตนเอง

 

• • ปรับท่านั่งและการเคลื่อนไหวให้ถูกต้อง

 

• • รู้ทันอาการปวดคอและปวดหลังเพื่อป้องกันความเสี่ยงของโรคกระดูกสันหลัง 

 

📚ดูแลตัวเองจากอาการปวดเอว

📚วิธีแก้ปวดหลังด้วยตัวเอง

📚ป้องกันปวดหลัง…ด้วยการปรับท่านั่งให้ถูกวิธี