กระดูกและข้อเสื่อมได้ ไม่ต้องรอวัยชรา

bg object1bg object2

อาการปวดหลังจาก “ความเสื่อม” ไม่ใช่อาการของผู้สูงอายุอย่างที่เราเข้าใจอีกต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มวัยหนุ่มสาวและวัยทำงานยุคนี้ ที่มีไลฟ์สไตล์นั่งทำงานจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน แทบไม่ขยับร่างกาย หรือเล่นกีฬาทำกิจกรรมที่ออกแรงเกินกำลัง

อาการปวดหลังจาก “ความเสื่อม” ไม่ใช่อาการของผู้สูงอายุอย่างที่เราเข้าใจอีกต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มวัยหนุ่มสาวและวัยทำงานยุคนี้ ที่มีไลฟ์สไตล์นั่งทำงานจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน แทบไม่ขยับร่างกาย หรือเล่นกีฬาทำกิจกรรมที่ออกแรงเกินกำลัง

พฤติกรรมซ้ำๆ แบบนี้ แม้จะดูไม่หนักหนาในแต่ละวัน แต่เมื่อสะสมไปนานๆ ก็ทำให้เกิด “ความเสื่อม” ได้ และเมื่ออาการเริ่มแสดงออก เช่น ปวดหลัง ปวดคอเรื้อรัง นั่นอาจเป็นสัญญาณแรกของปัญหากระดูกและข้อไม่ควรมองข้ามาม  

 

 

image1

วัฒนาการของมนุษย์: จุดเริ่มต้นของภาระที่เพิ่มขึ้นในกระดูกและข้อ  

 

หากย้อนดูวิวัฒนาการของมนุษย์ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปัญหากระดูกสันหลังและข้อเสื่อม พบมากขึ้น คือการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างร่างกาย  

 

“มนุษย์ในอดีตมีการเคลื่อนไหวแบบสัตว์สี่เท้า ซึ่งช่วยกระจายแรงกดของกระดูกสันหลังในแนวนอนได้ดี แต่เมื่อวิวัฒนาการทำให้เรายืนตัวตรงและเดินสองขา แรงกดจึงเปลี่ยนมาอยู่ในแนวดิ่ง กระดูกสันหลังและข้อต่อต่างๆ ต้องรับน้ำหนักมากขึ้นโดยตรง”  

 

ข้อเข่าก็เป็นอีกอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ จากเดิมที่ร่างกายใช้ขาทั้งหมดในการรองรับน้ำหนักตัว แต่เมื่อเหลือเพียงสองขา แรงกดที่ข้อเข่าจึงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ส่งผลให้เกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น  

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากวิวัฒนาการเพียงอย่างเดียว พฤติกรรมของมนุษย์ยุคใหม่ เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ภาวะกระดูกสันหลังและข้อเสื่อมเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม  

 

พฤติกรรมที่เร่งให้เกิดภาวะกระดูกและข้อเสื่อมโดยไม่รู้ตัว 

 

นั่งทำงานนานโดยไม่ขยับตัว  

 

พฤติกรรมที่หลายคนมองข้ามคือ การนั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ โดยเฉพาะการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมงติดต่อกัน ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลังอ่อนแรงลง หมอนรองกระดูกต้องรับแรงกดเพิ่มขึ้น และอาจนำไปสู่ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมเร็วกว่าปกติ 

 

นอกจากนี้ ท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น การโน้มตัวไปข้างหน้า นั่งหลังค่อม หรือไหล่ห่อ ก็เป็นปัจจัยที่เพิ่มภาระให้กระดูกสันหลังโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ในระหว่างวัน ควรลุกขึ้นขยับตัวทุก 30-60 นาที และจัดท่านั่งให้เหมาะสม โดยใช้เก้าอี้ที่รองรับหลัง พร้อมปรับระดับหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา  

 

ยกของหนักผิดวิธี  

 

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่มักทำให้เกิดปัญหากระดูกสันหลังเสื่อมคือ การยกของหนักผิดวิธี หลายคนมักก้มยกของโดยใช้แรงจากหลัง แทนที่จะใช้กำลังจากขา ทำให้หมอนรองกระดูกต้องรับแรงกดอย่างรุนแรง และอาจนำไปสู่ภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือกดทับเส้นประสาท ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวไปตามแขนหรือขาได้  

 

ดังนั้น เมื่อต้องยกของหนัก ควร ย่อตัวลง งอเข่า และใช้แรงจากต้นขาแทนหลัง วิธีนี้ช่วยลดแรงกดที่กระดูกสันหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสเกิดอาการบาดเจ็บในระยะยาว  

 

กิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงกระแทกสะสม  

 

หลายกิจกรรมที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย อาจทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกระแทกสะสมโดยไม่รู้ตัว เช่น การนั่งบนพื้นแข็งเป็นเวลานาน การเดินหรือวิ่งบนพื้นแข็งโดยไม่มีรองเท้าช่วยรองรับแรงกระแทก หรือแม้แต่การนั่งรถที่โช๊คอัพไม่ดี สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ข้อต่อต้องรับแรงกระแทกสะสม และเร่งให้เกิดภาวะกระดูกเสื่อมได้เร็วกว่าปกติ 

 

 

แผลเล็ก เสียเลือดน้อย

ไม่ต้องผ่าตัดแบบเปิดใช้เข็มขนาดเล็ก 1 มิลลิเมตร เจาะเข้าสู่บริเวณที่มีปัญหาทำให้แผลมีขนาดเล็กมาก เสียเลือดน้อย

Call Icon02-034-0808

พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟน  

 

การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพกระดูกและข้อ โดยเฉพาะภาวะ “Text Neck Syndrome” หรือ อาการกระดูกคอเสื่อมจากการก้มมองหน้าจอเป็นเวลานาน  

 

ทุกครั้งที่เราก้มศีรษะมองจอมือถือ กระดูกคอจะต้องรับน้ำหนักศีรษะมากกว่าปกติหลายเท่า และหากทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณต้นคออ่อนล้า และเร่งให้เกิดภาวะกระดูกเสื่อมเร็วขึ้น  

 

ดังนั้น การลดการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน รวมถึง การถือโทรศัพท์ให้อยู่ในระดับสายตา เป็นอีกแนวทางสำคัญในการถนอมสุขภาพกระดูกคอในระยะยาว  

 

second image

การรักษากระดูกและข้อ 

 

แนวทางการรักษากระดูกและข้อปัจจุบันมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละคน  หากอาการไม่รุนแรงสามารถใช้ยาและกายภาพบำบัดได้ แต่หากอาการหนักขึ้น อาจต้องใช้การผ่าตัดแผลเล็ก (MIS) เพื่อลดการบาดเจ็บและฟื้นตัวเร็วขึ้น 

 

เตรียมพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ: กระดูกและข้อเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ 

 

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ” โดยคาดว่าประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ซึ่งหมายความว่า ปัญหากระดูกและข้อจะกลายเป็นภาระทางสุขภาพที่สำคัญมากขึ้น และตลอด 8 ปีที่ผ่านเรามีประสบการณ์จึงเล็งเห็นปัญหาสุขภาพเรื่องข้อที่เพิ่มขึ้นด้วย  

 

และเพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โรงพยาบาลเอส สไปน์ จึงขยายการรักษาและการดูแลสุขภาพให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น พร้อมเป็น ศูนย์กลางการรักษาโรคกระดูกสันหลังและข้อระดับเอเชีย โดยยังคงมุ่งเน้นการใช้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงยกระดับมาตรฐานการให้บริการ เพื่อรองรับการเป็น Medical Hub ของประเทศไทย อย่างเต็มรูปแบบ   

 

 

อ่านเพิ่มเติม

Share Iconแชร์
Facebook Icon
Line Icon

บริการที่เกี่ยวข้อง

PSCD

PSCD

อาการปวดคอร้าวลงแขน เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทในบริเวณคอถูกกดทับ ทำให้เกิดความเจ็บปวดร้าวไปยังแขน ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอกดทับเส้นประสาท พบว่ามีอายุน้อยลงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเช่น การใช้คอมพิวเตอร์ หรือการก้มดูโทรศัพท์มือถือในท่าเดิมเป็นเวลานาน การนั่งท่าที่ไม่ถูกต้อง และการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ  
PSLD

PSLD

อาการปวดหลังร้าวลงขา เกิดจากการกดทับเส้นประสาทในบริเวณหลังส่วนล่าง ทำให้เกิดความเจ็บปวดที่ร้าวไปยังขา มักพบมากในวัยทำงาน ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีพฤติกรรมที่ส่งผลให้กระดูกสันหลังเกิดการเสื่อม เช่น การนั่ง หรือยืนในท่าเดิมนานเกินไป การยกของหนักในท่าที่ไม่ถูกต้อง ประสบอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลัง และการใช้ร่างกายที่มีแรงกระแทกสูง  
LASER

LASER

โรคหมอนรองกระดูกปลิ้น (Herniated Disc) คือภาวะที่ หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติและอาจกดทับเส้นประสาท พบบ่อยบริเวณ กระดูกสันหลังส่วนเอว (L4-L5, L5-S1) เกิดจากการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกจากอายุที่มากขึ้น การนั่งนานๆ  ยกของหนักผิดท่า หรือ อุบัติเหตุ  
Full Endo TLIF

Full Endo TLIF

โรคกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือ Spondylolisthesis เกิดจากกระดูกสันหลังข้อใดข้อหนึ่ง เลื่อนออกจากแนวกระดูกปกติไปทางด้านหน้า มักเกิดที่กระดูกสันหลังส่วนล่าง โดยเฉพาะบริเวณ L5-S1  พบบ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมสภาพ ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังอ่อนแอลงและเกิดการเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิม  
Endoscopic ACDF

Endoscopic ACDF

การผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ เป็นวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่มีภาวะหมอนรองกระดูกคอเสื่อมรุนแรง หรือ ได้หมอนรองกระดูกสันหลังได้รับความเสียหาย จนสูญเสียความสามารถในการรองรับแรงกระแทก หรือ ปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาท จนมีอาการปวดร้าวลงแขนและมือ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน    
ฉีด Cement

ฉีด Cement

กระดูกสันหลังแตก หัก ยุบ เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังอย่างรุนแรง มักเกิดขึ้นจากการเสื่อมของกระดูก  และ อุบัติเหตุ หรือ การบาดเจ็บที่รุนแรง ทำให้เกิดความเจ็บปวดและมีผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างมาก  พบในคนไข้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีภาวะกระดูกพรุนร่วมด้วย  
ฉีดยาบล็อกเส้นประสาท SNRB

ฉีดยาบล็อกเส้นประสาท SNRB

ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังจากการอักเสบของโพรงประสาทและรากประสาท ซึ่งอาจเกิดจาก หมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท หรือข้อต่อกระดูกสันหลังอักเสบ ส่งผลให้ปวดร้าวไปตามแนวเส้นประสาทแต่ยังไม่รุนแรง การฉีดยาเข้าโพรงประสาท (SNRB)  เป็นทางเลือกที่ช่วย ลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้  
Icon

ปรึกษาทีมงาน

ผู้เชี่ยวชาญตอนนี้

โทรเลย

Call Icon02-034-0808
โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ | S Spine & Joint Hospital

เลขที่ 2102/9 อาคาร A ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

โทร : 02-034-0808
Facebook IconLine IconTiktok IconYoutube IconInstagram Icon

Copyright © 2025 S Spine and Joint Hospital. All right reserved