ฟื้นฟู “ข้อเข่า” หลังผ่าตัดแบบครบวงจร ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยกับรพ.เอส

bg object1bg object2

การผ่าตัดข้อกระดูก เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก หรือข้อไหล่ อาจเป็นก้าวสำคัญในการลดอาการปวดจากโรคข้อเสื่อมหรือการบาดเจ็บ แต่การผ่าตัดเพียงอย่างเดียวไม่อาจทำให้ผลลัพธ์สมบูรณ์ได้ หากขาด “การฟื้นฟู” ที่ถูกต้องและต่อเนื่อง

ความสำคัญของการฟื้นฟูหลังผ่าตัด  

 

หลังผ่าตัด ข้อต่อและกล้ามเนื้อจะอยู่ในภาวะอ่อนแรง การไม่ฟื้นฟูอย่างเหมาะสมอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ข้อติด กล้ามเนื้อฝ่อลีบ หรือการกลับมาปวดซ้ำอีกครั้ง การทำกายภาพบำบัดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้งานข้อได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และใกล้เคียงภาวะปกติมากที่สุด 

image1

ระยะของการฟื้นฟู 

  • ระยะเฉียบพลัน (1–2 สัปดาห์แรก): เน้นลดบวม ปวด และฝึกขยับข้อเบื้องต้น เริ่มเดินโดยใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ไม้เท้าหรือวอล์คเกอร์ 

  • ระยะกึ่งเฉียบพลัน (2–6 สัปดาห์): เพิ่มการออกกำลังกายแบบต้านแรง ฝึกการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น และลดการพึ่งพาอุปกรณ์ช่วยเดิน 

  • ระยะฟื้นฟูสมบูรณ์ (หลัง 6 สัปดาห์ขึ้นไป): เน้นการสร้างความแข็งแรงและความทนทาน กลับไปทำกิจวัตรปกติ และฝึกกิจกรรมเฉพาะทาง เช่น เดินทางไกล หรือออกกำลังกาย 

 

เทคนิคการฟื้นฟูที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัด 

  • Passive & Active ROM Exercise: การฝึกเคลื่อนไหวของข้อต่อแบบช่วยเหลือและด้วยตนเอง ช่วยลดข้อติด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวในผู้ที่ยังใช้งานข้อได้ไม่เต็มที่ 

  • Isometric Exercise: ฝึกกล้ามเนื้อโดยไม่ต้องเคลื่อนข้อต่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถขยับข้อได้เต็มช่วง หรืออยู่ในระยะพักฟื้นต้นๆ 

  • Resistance Training: การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เช่น ยางยืดหรือเวทเบา ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่รองรับข้อ 

  • Balance Training: การฝึกการทรงตัว เช่น ยืนบนพื้นไม่เรียบ หรือใช้บอร์ดทรงตัว เพื่อเสริมระบบประสาท-กล้ามเนื้อและป้องกันการหกล้ม 

  • Functional Training: ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน เช่น ลุกจากเตียง ใส่รองเท้า หรือขึ้น-ลงบันได เพื่อเตรียมพร้อมกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ ฝึกกิจกรรมประจำวัน เช่น ลุกจากเตียง ใส่รองเท้า 

 

เครื่องมือกายภาพบำบัดที่ใช้บ่อย 

เพื่อเสริมประสิทธิภาพของการฟื้นฟู ทางโรงพยาบาลจะเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย เช่น: การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า  ลดปวดและกระตุ้นกล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นอัลตร้าซาวด์ / เลเซอร์:  เพื่อลดอักเสบเรื้อรัง และส่งเสริมการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ หรือ การใช้เทคนิค CPM หรือ เครื่องอบร้อน-เย็น: ช่วยขยับข้อ ป้องกันข้อติด และลดบวมหลังผ่าตัด กระตุ้นการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท 

ข้อดีของการใช้เครื่องมือร่วมกับการฟื้นฟู  

การฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับระยะฟื้นตัวและอาการของผู้ป่วย ซึ่งช่วยให้การรักษาเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น 

 

🎯 ช่วยบรรเทาอาการปวดได้รวดเร็ว: โดยเฉพาะในช่วงหลังผ่าตัดใหม่ๆ 

 

🎯 ลดความจำเป็นในการใช้ยา: เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่แพ้ยาหรือไม่ต้องการพึ่งพายาในระยะยาว 

 

เร่งกระบวนการฟื้นฟู: เครื่องมือบางชนิดสามารถเพิ่มการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นเนื้อเยื่อให้ซ่อมแซมตัวเองได้ไวขึ้น 

เหมาะกับผู้ป่วยทุกช่วงวัย: ทั้งผู้สูงอายุที่ต้องการฟื้นตัวอย่างปลอดภัย และวัยทำงานที่ต้องการกลับไปใช้งานข้อให้เร็วที่สุด 

second image

การดูแลอย่างใส่ใจของโรงพยาบาลเอส  

 

ที่โรงพยาบาลเอส  เราให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูทุกขั้นตอน ด้วยทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดเฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อดูแลผู้ป่วยแต่ละรายอย่างเหมาะสม เพื่อให้คุณกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจในทุกวัน 

อ่านเพิ่มเติม

Share Iconแชร์
Facebook Icon
Line Icon

บริการที่เกี่ยวข้อง

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (TKA)

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (TKA)

ผู้ป่วยที่มีข้อเข่าเสื่อมรุนแรง และมีอาการปวดเรื้องรังจนเคลื่อนไหวลำบาก กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เพื่อฟื้นฟูการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมบางส่วน (UKA)

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมบางส่วน (UKA)

ผู้ป่วยที่มีข้อเข่าเสื่อมในบางส่วน และมีอาการปวดเรื้องรัง บริเวณด้านในหรือด้านนอกข้อเข่า แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเฉพาะส่วนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อฟื้นฟูการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น   
ซ่อมแซมหมอนรองกระดูกข้อเข่า (Meniscus Repair)

ซ่อมแซมหมอนรองกระดูกข้อเข่า (Meniscus Repair)

การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บที่หมอนรองกระดูกข้อเข่า ซึ่งอาจเกิดจากการหกล้ม หรือการใช้งานข้อเข่าในลักษณะซ้ำๆ จนเกิดการฉีกขาด การซ่อมแซมจะช่วยให้หมอนรองกระดูกข้อเข่ากลับมาทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ลดอาการปวด และป้องกันการเกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมในระยะยาว  
ฉีดเกล็ดเลือดรักษาข้อเข่า (PRP)

ฉีดเกล็ดเลือดรักษาข้อเข่า (PRP)

  การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เป็นการรักษาข้อเข่าผู้ป่วยที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมในระยะเริ่มแรก หรือการบาดเจ็บที่ข้อเข่า โดยใช้เกล็ดเลือดจากตัวผู้ป่วยเอง ซึ่งมีความเข้มข้นสูง เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอกลับมาแข็งแรงขึ้น หรือ การบาดเจ็บที่ข้อเข่า
ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า

ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า

ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมในระยะแรกมักมีอาการข้อเข่าฝืด ใช้งานไม่สะดวก หรือมีอาการปวดและบวมเป็นๆ หายๆ เมื่อพักการใช้งานข้อเข่าจะทุเลา แต่เมื่อใช้งานมากขึ้นอาการปวดจะกลับมา การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสำหรับข้อเข่าเสื่อมในระยะแรก โดยช่วยเพิ่มการหล่อลื่นในข้อเข่า ลดการเสียดสีที่ทำให้เกิดอาการปวด    
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก  (Total Hip Arthroplasty)

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก (Total Hip Arthroplasty)

ข้อสะโพกเสื่อม ที่เกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนภายในข้อ ที่เกิดจากการใช้งานสะโพกเป็นเวลานาน การบาดเจ็บเรื้อรัง หรือโรคบางชนิด เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ รวม ถึงปัจจัยด้านอายุ เมื่อข้อสะโพกเสื่อม ผู้ป่วยมักมีอาการปวดบริเวณ ขาหนีบ หรือ ต้นขาด้านหน้า โดยอาการจะรุนแรงขึ้นขณะเคลื่อนไหว ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน  
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกบางส่วน

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกบางส่วน

พฤติกรรมการใช้งานข้อสะโพก เช่น การขึ้นลงบันไดบ่อย ยกของหนัก หรือนั่งยองซ้ำ ๆ ร่วมกับภาวะกระดูกพรุน หรืออุบัติเหตุ ล้วนเป็นตัวเร่งให้ข้อสะโพกเสื่อมได้เร็วขึ้น ในบางกรณีที่มีความเสียหายเฉพาะบางส่วนของข้อสะโพก เช่น กระดูกต้นขาหักใกล้ข้อ หรือข้อสะโพกเสื่อมบางจุด การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกบางส่วน จะช่วยลดอาการปวด และให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ้น  
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อไหล่เทียมแบบกลับด้าน

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อไหล่เทียมแบบกลับด้าน

อาการไหล่ติด ยกแขนไม่สุด หรือรู้สึกเจ็บลึก ๆ ภายในหัวไหล่ โดยเฉพาะเมื่อต้องเอื้อม หวีผม หรือใส่เสื้อผ้า ในบางรายอาการหนักถึงขั้นยกแขนไม่ได้เลย ทั้งที่กล้ามเนื้อแขนยังดูปกติดี ภาวะนี้มักเกิดจาก เส้นเอ็นรอบข้อไหล่ฉีกขาดรุนแรง ร่วมกับ ความเสื่อมของข้อไหล่ ซึ่งอาจมาจากอายุที่มากขึ้น การใช้งานซ้ำ ๆ หรืออุบัติเหตุ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อไหล่เทียมแบบกลับด้าน จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการรักษาและช่วยในการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น  
Icon

ปรึกษาทีมงาน

ผู้เชี่ยวชาญตอนนี้

โทรเลย

Call Icon02-034-0808
โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ | S Spine & Joint Hospital

เลขที่ 2102/9 อาคาร A ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

โทร : 02-034-0808
Facebook IconLine IconTiktok IconYoutube IconInstagram Icon

Copyright © 2025 S Spine and Joint Hospital. All right reserved