ป้องกัน “ข้อเข่าเสื่อม” กับ 8 เคล็ดลับการดูแลให้แข็งแรง

bg object1bg object2

“ข้อเข่า” อาจดูเหมือนเป็นแค่ข้อต่อหนึ่งในร่างกาย แต่เมื่อเริ่มมีปัญหา ความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนไปทันที จากการเดินง่าย ๆ กลายเป็นเรื่องลำบาก และจากท่าทางธรรมดา ๆ อาจกลายเป็นต้นเหตุของความเจ็บปวดที่สะสมโดยไม่รู้ตัว

บทความนี้ เราจึงอยากชวนคุณเริ่มต้นดูแลข้อเข่า เพื่อป้องกันข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร  

 

พฤติกรรมที่เร่งให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น 

 

หลายคนอาจเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรากำลังใช้ข้อเข่าเกินพอดีอยู่หรือเปล่า? เพราะในความเป็นจริง พฤติกรรมเล็ก ๆ ที่เราทำอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ตัว อาจกำลังเร่งให้ข้อเข่าค่อย ๆ เสื่อมลงอย่างช้า ๆ เช่น 

การนั่งพับเพียบหรือนั่งขัดสมาธิเป็นเวลานาน การยืนหรือนั่งในท่าที่เดิมการใส่รองเท้าที่ไม่พอดีกับรูปเท้า หรือแม้แต่น้ำหนักตัวที่มากเกินไป ล้วนเพิ่มแรงกดที่ข้อเข่าอย่างต่อเนื่อง 

image1

วิธีป้องกันข้อเข่าเสื่อม 

เมื่อรู้แล้วว่าพฤติกรรมบางอย่างอาจเป็นตัวเร่งให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น คำถามสำคัญถัดไปคือ เราจะป้องกันได้อย่างไร?  ดังนั้น เรามีเคล็ดลับการดูแลข้อเข่าให้ใช้งานยาวนานขึ้น ด้วย 8 วิธีง่ายๆ ดังนี้ 

 

1. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ 

ทุกน้ำหนักที่เกินมา จะเพิ่มแรงกดบนข้อเข่าขณะเดินถึง 3-4 เท่า การลดน้ำหนักแม้เพียงเล็กน้อยก็ช่วยลดภาระของข้อเข่าได้อย่างชัดเจน  จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการอักเสบของเนื้อเยื่อภายในข้อ และช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคงขึ้น 

 

2. ปรับพฤติกรรมในการนั่ง ยืน เดิน 

หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบหรือขัดสมาธิเป็นเวลานาน หมั่นเปลี่ยนท่าทางขณะทำงานหรือระหว่างวัน และหลีกเลี่ยงการยกของหนักในท่าที่งอเข่า การเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม จะช่วยลดการกดทับและกระจายแรงบนข้อเข่าได้ดีขึ้น 

 

3. เลือกรองเท้าที่เหมาะสม 

รองเท้าที่ดีควรมีพื้นรองรับแรงกระแทก และมีแผ่นซัพพอร์ตอุ้งเท้า หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงหรือแบนราบเกินไปที่อาจส่งแรงกระแทกเข้าสู่ข้อโดยตรง การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันการทรุดของข้อเข่า และลดโอกาสการบิดหมุนข้อผิดมุม 

 

4. ออกกำลังกายแบบไม่กระแทกข้อ 

ว่ายน้ำ เดินเร็ว หรือปั่นจักรยาน คือการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยไม่เพิ่มแรงกระแทกที่ข้อเข่า ซึ่งจะช่วยลดการสึกของกระดูกอ่อนผิวข้อและส่งเสริมการหมุนเวียนเลือดในข้อให้ดีขึ้น 

 

5. เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า 

กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง  ที่แข็งแรงจะช่วยพยุงข้อเข่า ลดแรงกด และช่วยให้เคลื่อนไหวมั่นคงขึ้น การบริหารกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยให้การลงน้ำหนักขณะเดินหรือขึ้นลงบันไดปลอดภัยยิ่งขึ้น 

 

6. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ 

เพิ่มความยืดหยุ่น ลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อที่อาจรั้งให้ข้อเข่าเคลื่อนผิดมุม การยืดที่เหมาะสมจะช่วยลดแรงดึงผิดแนวของเส้นเอ็นและเอ็นยึดข้อ 

 

7. ปรับสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้เหมาะกับการใช้ข้อเข่า 

เช่น การเลือกใช้เก้าอี้ที่มีความสูงพอดี มีที่วางแขนเพื่อช่วยผ่อนแรงขณะลุก-นั่ง และหลีกเลี่ยงพื้นลื่นเพื่อป้องกันการหกล้ม การใช้สภาพแวดล้อมให้เป็นมิตรกับข้อเข่า ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุสะสมที่จะกระทบข้อในระยะยาว 

 

8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 

เพราะการพักผ่อนที่ดีช่วยลดภาวะอักเสบในร่างกาย และส่งผลต่อการฟื้นตัวของข้อต่อ ร่างกายที่ได้พักอย่างเพียงพอ จะสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดีขึ้น และลดโอกาสของการอักเสบเรื้อรังที่มีผลต่อข้อ 

อาหารช่วยบำรุงข้อเข่า  

ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายหรือการปรับพฤติกรรมเท่านั้น แต่ “อาหาร” ที่เรากินทุกวันก็มีผลต่อสุขภาพของข้อเข่าด้วยเช่นกัน เช่น ปลาทะเล ผักใบเขียว  เช่น คะน้า บรอกโคลี นมถั่วเหลือง  หรือแม้กระทั่งน้ำสะอาดที่มีส่วนสำคัญต่อการหล่อลื่นในข้อเข่า 

หมั่นตรวจเช็กสุขภาพข้อเข่า ช่วยลดความเสี่ยง    

แม้จะไม่มีอาการชัดเจน แต่การตรวจข้อเข่าเป็นระยะ ก็สามารถช่วยชะลอหรือป้องกันการเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้ได้เช่นกัน  โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มมีอาการ ปวดเข่าขณะเดินหรือหลังใช้งาน ข้อเข่าฝืดหรือลุกนั่งลำบาก หรือ มีเสียงดังในข้อเมื่อเคลื่อนไหว 

 

ที่โรงพยาบาลเอส เรามีแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในการวินิจฉัยหาสาเหตุตั้งแต่เริ่มมีอาการ ด้วยเครื่อง X-ray หรือ MRI เพื่อประเมินสภาพของข้อเข่า เส้นเอ็น และเนื้อเยื้อโดยรอบ เพื่อช่วยวางแผนการรักษาที่เหมาะสม และลดโอกาสของการเสื่อมก่อนวัยได้  

อ่านเพิ่มเติม

Share Iconแชร์
Facebook Icon
Line Icon

บริการที่เกี่ยวข้อง

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (TKA)

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (TKA)

ผู้ป่วยที่มีข้อเข่าเสื่อมรุนแรง และมีอาการปวดเรื้องรังจนเคลื่อนไหวลำบาก กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เพื่อฟื้นฟูการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมบางส่วน (UKA)

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมบางส่วน (UKA)

ผู้ป่วยที่มีข้อเข่าเสื่อมในบางส่วน และมีอาการปวดเรื้องรัง บริเวณด้านในหรือด้านนอกข้อเข่า แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเฉพาะส่วนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อฟื้นฟูการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น   
ซ่อมแซมหมอนรองกระดูกข้อเข่า (Meniscus Repair)

ซ่อมแซมหมอนรองกระดูกข้อเข่า (Meniscus Repair)

การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บที่หมอนรองกระดูกข้อเข่า ซึ่งอาจเกิดจากการหกล้ม หรือการใช้งานข้อเข่าในลักษณะซ้ำๆ จนเกิดการฉีกขาด การซ่อมแซมจะช่วยให้หมอนรองกระดูกข้อเข่ากลับมาทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ลดอาการปวด และป้องกันการเกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมในระยะยาว  
ฉีดเกล็ดเลือดรักษาข้อเข่า (PRP)

ฉีดเกล็ดเลือดรักษาข้อเข่า (PRP)

  การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เป็นการรักษาข้อเข่าผู้ป่วยที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมในระยะเริ่มแรก หรือการบาดเจ็บที่ข้อเข่า โดยใช้เกล็ดเลือดจากตัวผู้ป่วยเอง ซึ่งมีความเข้มข้นสูง เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอกลับมาแข็งแรงขึ้น หรือ การบาดเจ็บที่ข้อเข่า
ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า

ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า

ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมในระยะแรกมักมีอาการข้อเข่าฝืด ใช้งานไม่สะดวก หรือมีอาการปวดและบวมเป็นๆ หายๆ เมื่อพักการใช้งานข้อเข่าจะทุเลา แต่เมื่อใช้งานมากขึ้นอาการปวดจะกลับมา การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสำหรับข้อเข่าเสื่อมในระยะแรก โดยช่วยเพิ่มการหล่อลื่นในข้อเข่า ลดการเสียดสีที่ทำให้เกิดอาการปวด    
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก  (Total Hip Arthroplasty)

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก (Total Hip Arthroplasty)

ข้อสะโพกเสื่อม ที่เกิดจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนภายในข้อ ที่เกิดจากการใช้งานสะโพกเป็นเวลานาน การบาดเจ็บเรื้อรัง หรือโรคบางชนิด เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ รวม ถึงปัจจัยด้านอายุ เมื่อข้อสะโพกเสื่อม ผู้ป่วยมักมีอาการปวดบริเวณ ขาหนีบ หรือ ต้นขาด้านหน้า โดยอาการจะรุนแรงขึ้นขณะเคลื่อนไหว ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน  
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกบางส่วน

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกบางส่วน

พฤติกรรมการใช้งานข้อสะโพก เช่น การขึ้นลงบันไดบ่อย ยกของหนัก หรือนั่งยองซ้ำ ๆ ร่วมกับภาวะกระดูกพรุน หรืออุบัติเหตุ ล้วนเป็นตัวเร่งให้ข้อสะโพกเสื่อมได้เร็วขึ้น ในบางกรณีที่มีความเสียหายเฉพาะบางส่วนของข้อสะโพก เช่น กระดูกต้นขาหักใกล้ข้อ หรือข้อสะโพกเสื่อมบางจุด การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกบางส่วน จะช่วยลดอาการปวด และให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ้น  
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อไหล่เทียมแบบกลับด้าน

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อไหล่เทียมแบบกลับด้าน

อาการไหล่ติด ยกแขนไม่สุด หรือรู้สึกเจ็บลึก ๆ ภายในหัวไหล่ โดยเฉพาะเมื่อต้องเอื้อม หวีผม หรือใส่เสื้อผ้า ในบางรายอาการหนักถึงขั้นยกแขนไม่ได้เลย ทั้งที่กล้ามเนื้อแขนยังดูปกติดี ภาวะนี้มักเกิดจาก เส้นเอ็นรอบข้อไหล่ฉีกขาดรุนแรง ร่วมกับ ความเสื่อมของข้อไหล่ ซึ่งอาจมาจากอายุที่มากขึ้น การใช้งานซ้ำ ๆ หรืออุบัติเหตุ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อไหล่เทียมแบบกลับด้าน จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการรักษาและช่วยในการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น  
Icon

ปรึกษาทีมงาน

ผู้เชี่ยวชาญตอนนี้

โทรเลย

Call Icon02-034-0808
โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ | S Spine & Joint Hospital

เลขที่ 2102/9 อาคาร A ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

โทร : 02-034-0808
Facebook IconLine IconTiktok IconYoutube IconInstagram Icon

Copyright © 2025 S Spine and Joint Hospital. All right reserved