นิ้วล็อก รักษาได้ไม่ต้องผ่าตัด แค่รู้ว่าอยู่ระยะไหน


เมื่อขยับนิ้วแล้วได้ยินเสียง “คลิก” หรือรู้สึกสะดุดเล็กน้อย อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ “นิ้วล็อก” (Trigger Finger)
โรคที่พบได้บ่อยในคนทำงานออฟฟิศ แม่บ้าน ช่าง หรือผู้ที่ใช้มือถือและคีย์บอร์ดบ่อย
เมื่อขยับนิ้วแล้วได้ยินเสียง “คลิก” หรือรู้สึกสะดุดเล็กน้อย อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ “นิ้วล็อก” (Trigger Finger)
โรคที่พบได้บ่อยในคนทำงานออฟฟิศ แม่บ้าน ช่าง หรือผู้ที่ใช้มือถือและคีย์บอร์ดบ่อย
ข่าวดีคือ หากรู้เท่าทันและเข้ารับการรักษาในระยะที่เหมาะสม นิ้วล็อกสามารถรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะใน “ระยะปานกลาง” ซึ่งเป็นช่วงที่การรักษาให้ผลดีที่สุด

นิ้วล็อก คืออะไร?
นิ้วล็อก (Trigger Finger) เกิดจาก การอักเสบของปลอกเอ็นที่หุ้มเส้นเอ็นงอนิ้วมือ ปลอกเอ็นที่หนาตัว ทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนไหวได้ลำบาก เมื่อพยายามงอหรือเหยียดนิ้ว จะเกิดอาการ “สะดุด” หรือ “ดีดกลับ”
กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ คนทำงานที่ใช้มือซ้ำ ๆ เช่น พิมพ์คีย์บอร์ด จับเมาส์ หิ้วของ หรือใช้อุปกรณ์ช่าง รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน และรูมาตอยด์

อาการนิ้วล็อกในแต่ละระยะ
อาการของนิ้วล็อกจะแบ่งเป็น 3 ระยะ ซึ่งมีแนวทางรักษาแตกต่างกัน
🟢 ระยะเริ่มต้น
• ตึงหรือเจ็บโคนนิ้ว โดยเฉพาะตอนเช้า
• ยังงอและเหยียดได้ปกติ แต่อาจรู้สึกสะดุดเล็กน้อย
💡 พักมือ ประคบอุ่น และยืดเหยียดเบา ๆ ช่วยลดอักเสบได้ดี
🟡 ระยะปานกลาง
• นิ้วมีเสียง “คลิก” หรือ “ดีด” ชัดเจน
• เริ่มเจ็บหรือดีดกลับเองเวลางอ–เหยียด
• ระยะนี้รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
🔴 ระยะรุนแรง
• นิ้วล็อกค้าง ต้องใช้อีกมือดัด
• ปวดและบวมมาก
⚠️ มักต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเปิดปลอกเอ็น
นิ้วล็อก รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
หากตรวจพบในช่วงต้นหรือระยะปานกลาง การรักษานิ้วล็อกโดยไม่ต้องผ่าตัดสามารถให้ผลดีมาก แพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามระดับอาการ
1. พักการใช้งาน และทำกายภาพเบื้องต้น ลดการใช้งานมือซ้ำ ๆ เช่น การพิมพ์หรือกำของแน่น ใช้อุปกรณ์พยุงนิ้ว (Splint) เพื่อให้เส้นเอ็นได้พักและบริหารยืดเหยียดนิ้ววันละ 2–3 ครั้ง เพื่อช่วยให้ปลอกเอ็นคลายตัว
2. การฉีดยาสเตียรอยด์เฉพาะจุด การฉีดยาเป็นวิธีหลักในการรักษา นิ้วล็อกระยะปานกลาง ช่วยลดการอักเสบของปลอกเอ็น และให้นิ้วกลับมาเคลื่อนไหวได้เป็นปกติภายใน 1–2 สัปดาห์
3. การทำกายภาพบำบัด และการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ช่วยลดอาการเจ็บ เพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเอ็น และฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของนิ้วให้ดีขึ้น การรักษาแบบไม่ผ่าตัดเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการนิ้วล็อกในระยะเริ่มต้นถึงระยะปานกลาง
🔍 อ้างอิงจากงานวิจัยของ American Society for Surgery of the Hand (ASSH, 2022) พบว่าในผู้ป่วยนิ้วล็อกระยะปานกลาง มากกว่า 80–90% ตอบสนองต่อการฉีดยาสเตียรอยด์เฉพาะจุด และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จำเป็นต้องผ่าตัด ยืนยันว่าแนวทางนี้ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และช่วยลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ หากเริ่มรักษาเร็ว มีโอกาสหายโดยไม่ต้องเข้าห้องผ่าตัดสูงมาก

เมื่อไหร่ควรมาพบแพทย์
• มีเสียง “คลิก” หรือ “สะดุด” ทุกครั้งที่งอหรือเหยียดนิ้ว
• เจ็บโคนนิ้ว โดยเฉพาะตอนเช้า
• อาการไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ แม้พักการใช้งานแล้ว
อย่ารอจนถึงระยะที่นิ้วล็อกค้าง เพราะอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด การพบแพทย์เฉพาะทางเร็วเท่าไร ยิ่งช่วยให้รักษาได้ง่ายขึ้น
การผ่าตัดรักษาในกรณีจำเป็น
ในผู้ที่อาการนิ้วล็อกอยู่ในระยะรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการฉีดยา แพทย์อาจแนะนำให้ทำ การผ่าตัดเปิดปลอกเอ็น (Trigger Finger Release) ซึ่งเป็นหัตถการขนาดเล็ก ใช้เวลาสั้น แผลเล็ก และฟื้นตัวเร็ว ส่วนใหญ่สามารถกลับมาใช้งานนิ้วได้ภายในไม่กี่วัน
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดนิ้วล็อกซ้ำ
• พักมือทุก 30 นาที เมื่อใช้งานต่อเนื่อง
• บริหารนิ้วและข้อมือเบา ๆ เป็นประจำ
• หลีกเลี่ยงการกำของแน่น หรือยกของหนักนาน ๆ
• ใช้เมาส์และมือถือในท่าที่ถูกต้อง
• รักษาสุขภาพข้อและเอ็นด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

“นิ้วล็อก" ไม่ใช่แค่อาการเล็ก ๆ ที่ควรปล่อยไว้ หากรู้เท่าทันและเข้ารับการรักษาในระยะที่เหมาะสม ส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ทีมแพทย์เฉพาะทางมือของ S Spine & Joint พร้อมให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคน
แชร์