ประสบการณ์ “ก้อง สหรัถ” ใช้ร่างกายหนัก สู่การรักษาแบบ “เฉพาะทาง” 

ใช้ชีวิตเต็มที่…แต่ร่างกายเริ่มส่งสัญญาณ

พี่ก้อง สหรัถ เล่าให้ฟังว่าในช่วงชีวิตวัยหนุ่มที่ทุกคนมองว่า พี่ก้อง เป็นคนสุภาพเรียบร้อย แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้ว ชีวิตของเขาก็เหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป ที่เต็มไปด้วยความซ่าและชอบความท้าทาย  “เรียกว่าซนเลย ค่อนข้างชอบอะไรที่มันโลดโผน มันๆ ลุยๆ”   พี่ก้อง เล่าย้อนถึงอดีตด้วยรอยยิ้ม กับกิจกรรมสุดมันที่ทำอยู่เป็นประจำ อย่างขี่ เจ็ตสกี เป็นสิ่งที่เขาหลงใหล  “ว่างเว้นจากงานก็ลงบึง ขี่กันเป็นวันๆ ถึงขั้นลงแข่งก็มี”   ไหนจะทริปมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่ง ที่ขี่กันข้ามจังหวัดกับกลุ่มเพื่อน แบบเช้ายันค่ำ เรียกได้ว่าเต็มที่กับชีวิตจริงๆ

แปล๊บเดียว .. เปลี่ยนชีวิต   

แต่จังหวะชีวิตก็เกิดขึ้นกับเขา ท่ามกลางกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกและความมัน จู่ๆ ก็มีเสียง “ลั่น ดังขึ้นจากข้างหลัง” ตามมาด้วยความรู้สึกร้อนชา ไล่จากหลังลงไปถึงขา ความปวดที่จู่โจมแบบเฉียบพลันจนแทบยืนไม่ไหว   “ตอนนั้นคือช็อกเลยครับ เดินแทบไม่ได้ ต้องทำตัวงอ แล้วค่อยๆ เดินประคองตัวเองช้าๆ ด้วยความเจ็บปวด” แต่ในใจก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็คงหาย แต่ความเจ็บครั้งนี้ ไม่เหมือนครั้งไหนๆ ทุกการเคลื่อนไหว แม้แต่การเปลี่ยนท่านอน ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป   หลังจากพยายามรักษาด้วยวิธีต่างๆ อาการก็ดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่ความรู้สึกแปลกๆ ก็ยังอยู่ “อยู่ในระดับที่เรียกว่ารำคาญมากกว่าครับ มันเมื่อยๆ ขัดๆ เกร็งๆ เป็นจุดๆ จากขาไปก้น   ถึงจะไม่เจ็บหนัก แต่ก็รบกวนชีวิตประจำวัน” 

รักษาที่ต้นเหตุ ..  แก้ได้ถูกจุด ก็กลับไปใช้ชีวิตได้ไว   

แต่ด้วยใจที่ยังรักกิจกรรมที่ยังทำ ก็มีความกังวลว่าจะเป็นอะไรมากไปกว่าเดิมหรือไม่ จึงเริ่มค้นหาสถานที่ที่คิดว่าจะทำให้อาการที่มีอยู่นี้หายไป  ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่เจอเพื่อนที่เคยมีประสบการณ์รักษา และแนะนำให้มาที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์  โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ   

วันที่มาพบหมอ ได้ตรวจร่างกาย และหมอส่งให้ไปทำ MRI ซึ่งที่นี่ เป็นเครื่องแบบยืน  ตอนแรกก็คิดว่า MRI จะมีแต่แบบนอนอย่างเดียว หมอก็อธิบายไปด้วยว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไร   

“เราเห็นชัดเจนทุกมุมมอง คุณหมอก็อธิบายไปด้วยว่า  MRI แบบยืน เป็นเวลาที่เราใช้ชีวิตจริงๆ การยืน การเดินจะทำให้เห็นชัดเจนว่ากระดูกเรา หมอนรองกระดูกเราส่วนต่างๆ ของร่างกายมันเป็นยังไง ทำให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น”   

แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจที่สุด คือ  “ ฟังแล้วเข้าใจเลย พูดแบบตรงไปตรงมา ไม่พูดให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ให้เรารู้สึกกังวล” 

ผ่าตัดแผลเล็ก…เปลี่ยนมุมมองที่เคยกลัว     

ทุกคนกลัวการผ่าตัด เพราะในความคิดของใครหลายคน การผ่าตัดย่อมเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับพี่ก้อง วันนี้ ความคิดนั้นได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง   

“การผ่าตัดที่ผมเคยคิดว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่ ต้องเปิดแผลกว้าง แต่ที่นี่ใช้เทคนิคแผลเล็กมากๆ แค่เท่ารูปากกา รูเข็ม เรียกว่าแทบไม่เสียเลือดเลย”

ถ้ารู้แบบนี้ มาตั้งนานแล้ว คงจบปัญหา” เป็นคำพูดจากพี่ก้อง ที่ได้มาสัมผัสกับตัวเอง เห็นถึงการรักษาอย่างมืออาชีพ ไม่ต้องเสียเวลา และได้กลับมาใช้ชีวิต  เติมเต็มในสิ่งที่อยากทำตามภาษาผู้ชาย “สายลุย”   

ขอบคุณพี่ก้อง ที่ไว้วางใจให้โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์  ได้ดูแล