“เราไม่อยากไปไกลจนถึงขั้นผ่าตัด แต่ถ้าทำอะไรได้ที่ไม่ต้องถึงขั้นนั้น มันคงจะสบายใจมากกว่า”

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

รักษาการปวดหลัง ปกติคนส่วนใหญ่มักคิดว่าเรื่องกระดูกนั้นเป็นเรื่องไกลตัว จะเป็นโรคนี้ได้ ต้องมีอายุเยอะๆ หรือไม่ก็เป็นคนที่ขาดแคลเซียม วันนี้ เรามีประสบการณ์ของคุณ โก้ ชาญชัย กายสิทธิ์ ผู้ประกาศข่าว พิธีกร ที่มีอาการปวดหลังที่เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทมาเล่าให้ฟังกัน 

อาการปวดหลัง 

มีอาการปวดหลัง ได้ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ก็คิดว่าสาเหตุน่าเกิดจากการเล่นกีฬา หรือ ไม่ก็อาจจะเป็น office syndrome เพราะว่าเรานั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ 

สาเหตุของการอาการปวดหลัง 

มีอยู่วันนึงไปฟิตเนต ซึ่งเราหยุดไปนาน ก็ไปยกเวท ตามปกติ โดยทั่วไป คนที่ออกกำลังกายมันก็จะมีอาการปวดเมื่อยหลังเล่นเสร็จเป็นปกติอยู่แล้ว แต่คราวนี้ มันแตกต่างกัน มีอยู่คืนหนึ่งตื่นขึ้นมา รู้สึกไม่ค่อยโอเค จะลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ แต่กลับลุกไม่ได้ รู้สึกตัวเหมือนมีแกนเอนๆ ลุกไม่ได้ มันปวดมาก มันเจ็บ เอามือค่อยๆดันตัวขึ้น ถามตัวเองว่า เป็นอะไรเนี่ย เราเป็นอะไร สุดท้าย ก็ต้องลงนอนราบไปตรงพื้น และยังคงคิดว่า เราเล่นกีฬามากไปหรือเปล่า หรือ ว่าเรานอนที่นอนเป็นหลุมเป็นแอ่ง 

การตรวจหาสาเหตุ 

ไปหาหมอ x-ray หมอบอกว่า หมอนรองกระดูกเสื่อม ดูจากผลแล้วเห็นกระดูก 2 ข้อ ช่วงใกล้ๆ สะโพก บีบเข้าหากัน เหมือนหมอนรองกระดูกบางลง ทำให้เรารู้สึกว่ากระดูกมันจะขบกันง่ายขึ้น แต่ยังไม่ได้แรงไปจนถึงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คุณหมอ บอกว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น 

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท  รักษาเบื้องต้น 

เบื้องต้นก็มีกินยา กายภาพ มีการใช้อัลต้าซาวน์มาทำตรงที่เป็น นวดบ้างไปอยู่หลายรอบ และลดกิจกรรมออกกำลังกายหนักประเภท ยกเวท ยกของหนัก สามารถว่ายน้ำได้ ถ้ายกของหนัก ก็จำเป็นต้องยกให้ถูกท่า ถ้าเกิดวันไหนลืมก้มลงยกผิดท่า ก็จะปวดหลังร้าวสะโพกทันทีบางครั้งก็เชื่อมต่อลงไปถึงขา ทำให้รู้สึกเหมือนขาตึง แล้วก็ปวดเมื่อย เหมือนคนที่มีอายุ ซึ่งในความรู้สึกเราก็ไม่น่าจะเป็นถึงขนาดนั้น เราก็เลยประคองตัวในการรักษา เพราะว่าเราไม่อยากจะไปไกลถึงขั้นผ่าตัด 

กลัวการผ่าตัดไหม 

เป็นคนที่กลัวการผ่าตัด โดยเฉพาะเรื่องกระดูกสันหลังแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา การผ่าตัดต้องมีการเปิดแผลใหญ่ พอฟื้นกลับมาจะเหมือนเดิมไหม แล้วมันจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า  นี่คือความกังวลของคนที่มีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ดังนั้นถ้าเกิดมันมีทางเลือกอื่น ใช้ เลเซอร์ ได้ไหม หรือ ผ่าตัดแผลเล็ก หรือมีวิธีการอื่นๆ ที่มันตรงจุด เจ็บน้อยที่สุด แล้วทำให้หาย มันคงจะสบายใจกว่า มันก็ช่วยทำให้เรารู้สึกว่า สบายใจขึ้นในการดำเนินชีวิต เพราะว่าเราต้องนั่งอ่านข่าววันละ 3 ชั่วโมง น้ำหนักตัวก็จะกดลงมาเวลานั่ง 

ทราบ โรงพยาบาลเอส ได้อย่างไร 

ก่อนหน้านี้มีคนแนะนำมาซักพักแล้ว แต่เรากลัวการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษาแล้วกลัวว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่หรือเปล่า มันเห็นภาพเก่าๆ ที่ผ่ากันที เป็นคืบ ยิ่งมันเป็นกระดูกสันหลังด้วย เราก็ยิ่งกลัว  แต่ครั้งล่าสุดก่อนจะมาที่นี่ ก็ใช้ชีวิตปกตินะ ไปซื้อของ ยกของ เราก็คิดว่าธรรมดา แต่พอยกไปซักพักนึง มันแป๊บ แบบไม่ไหวแล้ว ปวดหลังร้าวจนต้องนั่งพัก นั่งก็ไม่ได้ ปวดมาก เดินก็เจ็บ กลับมาบ้าน นอนก็ยังเจ็บ ต้องนอนตะแคง ไปมา พยายามทำท่าให้เจ็บน้อยที่สุด สุดท้ายก็เลยเข้ามาตรวจดูเพื่อหาสาเหตุ 

การตรวจหาสาเหตุของโรงพยาบาลเอส เป็นอย่างไร 

ครั้งแรกที่มาที่นี่ คุณหมอให้ x-ray แต่ว่า มี MRI ร่วมด้วย ผลที่ออกมา เราก็เห็นภาพ MRI ซึ่งภาพมันชัดมากว่า นอกจากหมอนรองกระดูกเราเสื่อมแล้ว เจ้าหมอนรองกระดูกเรามันปลิ้นออกมา ปูดออกมาจนไปชน ไขสันหลัง ที่เส้นประสาทตรงนั้น หมองรองกระดูกทับเส้นประสาท เห็นชัดมาก ซึ่งใจเราบอกว่า ถ้าเราจะไปใช้แพทย์ทางเลือกให้เค้า มาดึงๆ ยึดๆ เหมือนเดิมเนี่ย มันปลิ้นขนาดนี้แล้ว มันคงเสี่ยงมากอยู่นะ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจว่า ไหนๆ ก็ต้องหยุดอยู่บ้าน ซึ่งอาการตรงนี้ หยุด แล้ว กินยา ก็ไม่หาย เพราะเราเห็นแล้วว่า หมอนรองกระดูกปลิ้น ถ้าว่ากินยาแล้วมันจะหดไหม มันก็คงไม่หดแล้ว 

ใช้เวลาตัดสินใจในการรักษานานไหม 

เราถามคุณหมอว่า การรักษาแบบนี้ เจ็บไหม ผลข้างเคียงเป็นอย่างไร เปอร์เซนต์การสำเร็จมีแค่ไหน แผลขนาดไหน เมื่อคุณหมอชี้แจง วิธีรักษาด้วยเลเซอร์  ก็ตัดสินใจทำเลย กลับมาก็นัดคิวทำเลย 

หลังจากผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษาแล้วเป็นอย่างไร 

ผ่าตัด ในความรู้สึกของเราคือ ลุกไม่ได้ ต้องเจ็บ ต้องปวด แต่ปรากฎว่า เราลุกเข้าห้องน้ำ ลุกเดินไป เดินมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้น ในท่าที่เคยนั่งแล้วปวด ตอนนี้นั่งได้ เพื่อนๆ จะมาเยี่ยม แต่ยังมาไม่ทันเลย เราออกไปแล้ว เราใช้เวลาอยู่ 2 วัน 1 คืน 

ประสบการณ์สำหรับอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษาคุณ โก้ ชาญชัย กายสิทธิ์ ที่ต้องทนปวดมาเป็นเวลา 1 ปี วันนี้สามารถกับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ เป็นปกติ และปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำ ไม่ยกของหนักเกินไป ไม่นั่งนานเกิน 2 ชม.หรือถ้าจำเป็นก็ให้เปลี่ยนอริยาบถ ออกกำลังกายในกิจกรรมไม่เสี่ยง เท่านี้ก็ห่างไกลจากโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังแล้ว