ปวดต้นคอท้ายทอยจุดเริ่มต้นกระดูกคอเสื่อม

bg object1bg object2

กระดูกคอเสื่อมเป็นโรคที่หลายคนเข้าใจว่าไม่มีทางรักษาให้หายขาด ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดมานานนับสิบปี

กระดูกคอเสื่อมเป็นโรคที่หลายคนเข้าใจว่าไม่มีทางรักษาให้หายขาด ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดมานานนับสิบปี

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังอธิบายว่า โรคนี้มักเกิดขึ้นตามวัยที่เพิ่มขึ้น และหากปล่อยไว้โดยไม่รับการรักษา อาจลุกลามจนกลายเป็นภาวะปวดเรื้อรังที่ยากต่อการรักษา 

 

 

สาเหตุหลักของโรคกระดูกคอเสื่อม 

 

  • อายุที่เพิ่มขึ้น : เมื่อเราอายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลง โดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป 

 

  • การเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม : การขยับคอบ่อยๆ หรือแรงเกินไปจะเร่งให้เกิดความเสื่อมเร็วขึ้น 

 

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล : การก้มหน้าใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน หรือการทำงานในท่าเดิมโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ 

 

ข้อมูลจากโรงพยาบาล เอส สไปน์ ชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคกระดูกคอเสื่อมเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน 

 

 

📚  ปรับท่าใช้โทรศัพท์มือถือเลี่ยงกระดูกคอเสื่อม 

📚  ยิ่งก้ม ยิ่งเสี่ยงปวดคอเรื้อรัง (Text Neck Syndrome) 

 

 

รู้หรือไม่? อาการปวดต้นคอท้ายทอย ชี้ตำแหน่งหมอนรองกระดูกคอเสื่อมได้ 

 

  • หมอนรองกระดูกคอระดับ 3-4 เป็นจุดสูงสุดของหมอนรองกระดูกคอเสื่อม จะมีอาการปวดต้นคอท้ายทอยคล้ายปวดไมเกรน 

  • หมอนรองกระดูกคอระดับ 4-5 ปวดคอ บ่า ไหล่ 

  • หมอนรองกระดูกคอระดับ 5-6  ปวดบริเวณสะบัก 

  • หมอนรองกระดูกคอระดับ 6-7 ปวดบริเวณด้านในของสะบักหรือข้างล่างสะบัก

 

image1

 

สาเหตุ และอาการ ของกระดูกคอเสื่อม 

 

ท่านเคยสงสัยไหมว่า อาการปวดต้นคอท้ายทอยที่ท่านกำลังประสบอยู่นั้น เกิดขึ้นจากสาเหตุใด? แม้อาการปวดอาจบ่งบอกถึงตำแหน่งที่ถูกกดทับได้ แต่เพื่อความแม่นยำในการวินิจฉัย การตรวจด้วยเครื่อง MRI จึงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากสามารถแสดงให้เห็นถึงระดับความรุนแรงของการกดทับเส้นประสาทโดยหมอนรองกระดูกที่เคลื่อน หรือความเสื่อมของกระดูกคอได้อย่างชัดเจน 

 

หากพบว่าเส้นประสาทถูกกดทับมาก ควรได้รับการรักษาโดยเร็ว มิฉะนั้นอาจส่งผลให้เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บถาวร และอาจไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์ 

 

 

📚  MRI แบบยืน ค้นหาสาเหตุของคนปวดหลัง 

📚  มาเช็กกระดูกสันหลังกันเถอะ 

📚  หมอนรองกระดูกปลิ้น คือ? 

 

แผลเล็ก เสียเลือดน้อย

ไม่ต้องผ่าตัดแบบเปิดใช้เข็มขนาดเล็ก 1 มิลลิเมตร เจาะเข้าสู่บริเวณที่มีปัญหาทำให้แผลมีขนาดเล็กมาก เสียเลือดน้อย

Call Icon02-034-0808

 

วิธีป้องกันกระดูกคอเสื่อม 

 

กระดูกคอเสื่อมมักเกิดจากการใช้งานหนักเป็นเวลานาน ดังนั้น เพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ ควรปฏิบัติดังนี้ : 

 

  • หลีกเลี่ยงการก้มหน้าเป็นเวลานาน เพราะยิ่งก้มมาก หมอนรองกระดูกคอก็จะยิ่งเสื่อมเร็ว 

  • ไม่ใช้หมอนสูงเกินไปขณะนอน เพราะจะทำให้คอพับคล้ายกับการก้มหน้า ซึ่งส่งผลเสียต่อกระดูกคอในระยะยาว 

 

 

 

แนวทางการรักษากระดูกคอเสื่อม 

 

การรักษากระดูกคอเสื่อมมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ : 

 

 

การรักษาแบบอนุรักษ์นิยม

 

สำหรับกรณีที่อาการไม่รุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ 

 

การฉีดยา

 

ในกรณีที่เส้นประสาทมีการอักเสบ แพทย์อาจพิจารณาฉีดยาเฉพาะจุด เพื่อบรรเทาอาการ 

 

การรักษาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

 

หากวิธีการรักษาข้างต้นไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น 

📚  ลดความเจ็บปวด ด้วยเทคโนโลยี “เลเซอร์” 

📚  หยุดทรมานจากโรคหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท ด้วยเทคนิค PSCD 

 

 

 

การใส่ใจสุขภาพคอ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และสังเกตอาการผิดปกติ เช่น อาการปวดต้นคอท้ายทอย เป็นสิ่งสำคัญ หากพบความผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังโดยเร็ว เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

 

อ่านเพิ่มเติม

Share Iconแชร์
Facebook Icon
Line Icon

บริการที่เกี่ยวข้อง

PSCD

PSCD

อาการปวดคอร้าวลงแขน เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทในบริเวณคอถูกกดทับ ทำให้เกิดความเจ็บปวดร้าวไปยังแขน ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอกดทับเส้นประสาท พบว่ามีอายุน้อยลงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเช่น การใช้คอมพิวเตอร์ หรือการก้มดูโทรศัพท์มือถือในท่าเดิมเป็นเวลานาน การนั่งท่าที่ไม่ถูกต้อง และการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ  
PSLD

PSLD

อาการปวดหลังร้าวลงขา เกิดจากการกดทับเส้นประสาทในบริเวณหลังส่วนล่าง ทำให้เกิดความเจ็บปวดที่ร้าวไปยังขา มักพบมากในวัยทำงาน ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีพฤติกรรมที่ส่งผลให้กระดูกสันหลังเกิดการเสื่อม เช่น การนั่ง หรือยืนในท่าเดิมนานเกินไป การยกของหนักในท่าที่ไม่ถูกต้อง ประสบอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลัง และการใช้ร่างกายที่มีแรงกระแทกสูง  
LASER

LASER

โรคหมอนรองกระดูกปลิ้น (Herniated Disc) คือภาวะที่ หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติและอาจกดทับเส้นประสาท พบบ่อยบริเวณ กระดูกสันหลังส่วนเอว (L4-L5, L5-S1) เกิดจากการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกจากอายุที่มากขึ้น การนั่งนานๆ  ยกของหนักผิดท่า หรือ อุบัติเหตุ  
Full Endo TLIF

Full Endo TLIF

โรคกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือ Spondylolisthesis เกิดจากกระดูกสันหลังข้อใดข้อหนึ่ง เลื่อนออกจากแนวกระดูกปกติไปทางด้านหน้า มักเกิดที่กระดูกสันหลังส่วนล่าง โดยเฉพาะบริเวณ L5-S1  พบบ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมสภาพ ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังอ่อนแอลงและเกิดการเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิม  
Endoscopic ACDF

Endoscopic ACDF

การผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ เป็นวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่มีภาวะหมอนรองกระดูกคอเสื่อมรุนแรง หรือ ได้หมอนรองกระดูกสันหลังได้รับความเสียหาย จนสูญเสียความสามารถในการรองรับแรงกระแทก หรือ ปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาท จนมีอาการปวดร้าวลงแขนและมือ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน    
ฉีด Cement

ฉีด Cement

กระดูกสันหลังแตก หัก ยุบ เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังอย่างรุนแรง มักเกิดขึ้นจากการเสื่อมของกระดูก  และ อุบัติเหตุ หรือ การบาดเจ็บที่รุนแรง ทำให้เกิดความเจ็บปวดและมีผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างมาก  พบในคนไข้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีภาวะกระดูกพรุนร่วมด้วย  
ฉีดยาบล็อกเส้นประสาท SNRB

ฉีดยาบล็อกเส้นประสาท SNRB

ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังจากการอักเสบของโพรงประสาทและรากประสาท ซึ่งอาจเกิดจาก หมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท หรือข้อต่อกระดูกสันหลังอักเสบ ส่งผลให้ปวดร้าวไปตามแนวเส้นประสาทแต่ยังไม่รุนแรง การฉีดยาเข้าโพรงประสาท (SNRB)  เป็นทางเลือกที่ช่วย ลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้  
Icon

ปรึกษาทีมงาน

ผู้เชี่ยวชาญตอนนี้

โทรเลย

Call Icon02-034-0808
โรงพยาบาลเอส สไปน์ | S Spine Hospital

เลขที่ 523/1 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

โทร : 02-034-0808
Facebook IconLine IconTiktok IconYoutube IconInstagram Icon

Copyright © 2025 S Spine and Joint Hospital. All right reserved